อัพเดตฟอร์มของ เบนจามิน เซสโก
เบนจามิน เซสโก อัพเดตหลัง การปะทะที่เจ็บปวดขณะที่รูเบน อโมริม รอ 'การวินิจฉัย' ที่หัวเข่า
อย่างไรก็ตาม อาโมริมยังคงเชื่อมั่นว่าหากลูกทีมสามารถปรับสมดุลระหว่างเกมรุกและเกมรับได้ดีขึ้น แมนฯ ยูไนเต็ดจะกลับมาอยู่ในเส้นทางลุ้นพื้นที่ยุโรปได้แน่นอนในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาลนี้ แฟนบอลสามารถติดตามความคืบหน้าเรื่องอาการบาดเจ็บของ เบนจามิน เซสโก และสถานการณ์ของทีมแบบเรียลไทม์ได้ผ่านช่องทาง ข่าวบอล ที่รายงาน ข่าวฟุตบอลต่างประเทศ ครบทุกลีก ทุกประเด็น ตลอด 24 ชั่วโมง
สถานการณ์ในถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ดกลับมาน่ากังวลอีกครั้ง หลังจาก เบนจามิน เซสโก กองหน้าดาวรุ่งของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าจากเกมพรีเมียร์ลีกที่ทีมบุกไปเสมอ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 2-2 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งผลการวินิจฉัยเบื้องต้นออกมาในเชิงบวก แต่ยังต้องรอการตรวจ MRI เพื่อยืนยันความรุนแรงของอาการอย่างละเอียด รูเบน อาโมริม ผู้จัดการทีมปีศาจแดง เปิดเผยหลังจบเกมว่า ตนรู้สึกกังวลกับอาการของเซสโก้ แม้จะได้รับรายงานในเบื้องต้นว่าไม่ร้ายแรงนัก แต่ก็ยังไม่สามารถชะล่าใจได้ เนื่องจากผู้เล่นวัยเพียง 22 ปีรายนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญของแนวรุกในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
รายงานจากสื่อชื่อดังของสโลวีเนีย ข่าวฟุตบอลต่างประเทศ ระบุว่า เซสโก้อาจหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บหนักได้ แต่ทีมแพทย์ของแมนฯ ยูไนเต็ดจะยังคงติดตามอาการอย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าตัวจะกลับมาลงสนามได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้ สถิติของอาโมริมในฐานะกุนซือแมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงไร้พ่าย 5 นัดติดต่อกัน แต่ผลงานโดยรวมของทีมยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ในเกมกับสเปอร์ส แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องเผชิญปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายราย ทั้ง แฮร์รี่ แม็กไกวร์, คาเซมิโร่ และล่าสุดคือ เบนจามิน เซสโก ส่งผลให้กุนซือชาวโปรตุเกสต้องปรับแท็กติกแทบทุกสัปดาห์ ขณะที่แนวรุกของทีมยังไม่สามารถหาความต่อเนื่องได้
อีกหนึ่งข่าวที่สร้างความกังวลให้กับแฟนบอลคือการที่ ไบรอัน เอ็มเบอูโม ซึ่งถือเป็นนักเตะฟอร์มเด่นของทีมในฤดูกาลนี้ ต้องเดินทางไปรับใช้ทีมชาติแคเมอรูนในศึก แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชันส์ ช่วงต้นปีหน้า โดยเจ้าตัวทำไปแล้ว 6 ประตูในพรีเมียร์ลีก และเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีมในตอนนี้ การขาดหายไปของเขาอาจทำให้แนวรุกของทีมยิ่งขาดความเฉียบคม ขณะเดียวกัน การย้ายออกของ อาหมัด ดิยัลโล่ ในช่วงตลาดหน้าหนาวที่จะถึงนี้ ก็ทำให้ทางเลือกในเกมรุกของอาโมริมน้อยลง เหลือเพียง เซสโก้, มาเธอุส คุนญ่า, เมสัน เมาท์ และ โยชัว เซิร์กซี ซึ่งอาจไม่เพียงพอในการแข่งขันหลายรายการที่รออยู่
ในเกมกับสเปอร์ส ยูไนเต็ดมีโอกาสยิงเพียง 5 ครั้งตลอด 90 นาที โดยจังหวะสำคัญเกิดขึ้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 96 จากลูกเตะมุมที่ มัทไธส์ เดอ ลิกต์ ยิงตีเสมอให้ทีมรอดพ้นความพ่ายแพ้ไปได้อย่างหวุดหวิด ซึ่งถือเป็นหนึ่งในไม่กี่จังหวะที่ทีมสามารถเจาะแนวรับคู่แข่งได้ แม้จะมีผลเสมอที่ช่วยรักษาสถิติไม่แพ้ แต่รูปเกมโดยรวมสะท้อนให้เห็นว่าทีมของอาโมริมยังต้องพัฒนาอีกมาก โดยเฉพาะการครองบอลและการสร้างสรรค์โอกาส เนื่องจากทีมมักอาศัยการเล่นสวนกลับมากเกินไป ซึ่งต่างจากสไตล์ดั้งเดิมของแมนฯ ยูไนเต็ดที่เน้นเกมรุกกดดันคู่ต่อสู้
แท็ก : รูเบน อาโมริม ข่าวบอล แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เบนจามิน เซสโก้ มัทไธส์ เดอ ลิกต์
หมวดหมู่ : ฟุตบอลต่างประเทศ
